คุณสามารถรับ Infographic ดีๆ ฟรี ส่งตรงถึง อีเมลคุณ

ที่มาของปัญหาคดีข่มขืน…เกิดขึ้นจากตรงไหน ?

Published by Infographic Thailand

ปัญหาความรุนแรงทางเพศในประเทศไทย

                  จากข่าวเด็กถูกข่มขืนและฆาตกรรมบนรถไฟเมื่อไม่นานมานี้ คงสร้างความสะเทือนใจและแสดงให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงทางเพศในประเทศไทยได้ไม่น้อย แต่นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้เท่านั้น มีผลการสำรวจออกมาว่า ในปี พ.ศ. 2556 มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืนมากถึง 31,866 ราย คิดเฉลี่ยเป็น 87 ราย ต่อ 1วัน หรือในทุกๆ 15 นาทีจะมีเหยื่อ 1 คน  ซึ่งสถิติดังกล่าวยังมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นและไม่มีท่าทีที่จะลดลงอีกด้วย

                  มีผลการศึกษาออกมาว่า ลักษณะของผู้หญิงที่ตกเป็นเป้าหมาย มักมีลักษณะอยู่สามประการ 1. มีผมยาว มัดผมเปียและไว้มวยผม ทำให้ถูกกระชากตัวได้  2. สวมใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกง่าย 3. ใช้โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา ทำให้ขาดความระมัดระวังตัว โดยผู้ที่เป็นเหยื่อมากที่สุด คือ นักเรียน นักศึกษา รองลงมาคือ เด็กและพนักงานบริษัท ส่วนผู้ร้ายมักเป็นลูกจ้างหรือคนว่างงาน  สาเหตุที่ก่อให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรงนี้แม้จะมีหลายประการ แต่ก็ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้สารเสพติด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งยังถือว่าเป็นปัจจัยหลักของปัญหานี้

                  มีการเรียกร้องให้เพิ่มโทษ เพื่อให้คนกลัวจนไม่กล้ากระทำผิด แต่คงไม่มีบทลงโทษ ถ้าไม่มีผู้ร้าย ดังนั้น นอกจากจะหลีกเลี่ยงลักษณะที่อาจทำให้ตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายแล้ว  การรู้วิธีป้องกันตัวก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดและปกป้องชีวิตของตนเองได้  ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสติ มองหาอาวุธเพื่อต่อสู้ ต่อรองคนร้ายด้วยทรัพย์สิน  พยายามไม่ให้ตัวเองหมดสติ มองหาที่หลบซ่อนหากหนีไม่ทัน หาทางสู้คนร้ายถ้ามีโอกาส เพราะปัญหาความรุนแรงทางเพศในประเทศไทยยังคงอยู่ อย่าชะล่าใจ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ !

 

Shared on 31 JUl 2014 in Love & SEX Uncategorized

ส่งต่อความรู้ดีๆ

LINE it!

บทความที่เกี่ยวข้อง

“อยากรัก แต่ไม่อยากคบ” ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องรู้ว่า...

วันวาเลนไทน์ปีนี้ คุณอยู่ในสถานะไหน โสด อินเลิฟ หรือแค่คนคุย . เพราะว่าความสัมพันธ์มีหลายรูปแบบ

สังคมไทยยอมรับ LGBT แค่เพียงลมปาก??

สังคมไทยเปิดกว้างเรื่องเพศจริงหรือ? . ในปัจจุบันนี้

วาเลนไทน์ ในความหมาย ชาย...

              ทุกสิ่งอย่างบนโลกล้วนมีสองด้านที่ต่างกัน แต่เมื่อไหร