อยากดูดีทั้งที หน้าก็ต้องเป๊ะกันหน่อย เชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะสาวๆคงมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหลากหลายยี่ห้อ จนหาที่ว่างบนโต๊ะแต่งหน้าแทบไม่ได้เลยกันใช่มั้ยล่ะ ก็แหงล่ะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนี่นา (แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็ใช่ย่อยนะเออ ผิวขาวหน้าผ่องกว่าก็มี!) แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากผิวหน้าที่อุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมอย่างดี กลับเกิดความผิดปกติขึ้นมาหลังจากเลิกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จนต้องหันกลับไปใช้ตามเดิม เพื่อให้หน้ากลับมาผ่องใส จนเลิกใช้ไม่ได้ เพราะเลิกใช้หน้าก็พังทันที นี่แหละเป็นอาการที่บอกว่าใบหน้าของคุณตกเป็นทาสสเตียรอยด์ ซะแล้ว! ถ้าคิดว่าใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไรล่ะก็ คิดผิดถนัด ! เพราะยิ่งใช้ไปนานๆเท่าไหร่ หน้าของคุณก็จะยิ่งบางลงๆ ทำให้ผิวหน้าอ่อนไหว ติดเชื้อได้ง่าย หน้าพังไปมากกว่าเดิมซะอีก
หา! สเตียรอยด์ คืออะไร ? กำลังสงสัยใช่ไหมละว่ามันมาได้อย่างไร เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากในการควบคุมความสมดุลของร่างกายเรา ดังนั้น นอกจากจะนำไปรักษาโรคอื่นๆแล้ว ก็เลยนำมาเป็นส่วนผสมของยาฉีดสิว แต้มสิว แก้สิวอักเสบ ครีมหน้าขาวใสสวยเด้งต่างๆรวมถึงครีมทาจากโรงพยาบาลด้วยเสียเลย เนื่องจากช่วยรักษาอาการได้เร็ว เพียง 1-3 วันก็เห็นผล แต่พอเลิกใช้ปุ๊บ หน้าก็กลับมาพังตามเดิม แทนที่จะได้หน้าสไตล์ ”เกาหลี” คุณอาจได้หน้า “เกาหยิกๆ” เป็นผลตอบแทน
เริ่มจากการมีผดผื่นขึ้น ใบหน้าก็แพ้อะไรได้ง่ายจากผิวที่อ่อนบาง แถมยังมีอาการอื่นๆอีกทั้งสิวที่กลับมาอุดตันอีกครั้ง เส้นเลือดดำที่ขึ้นเด่นชัด และผิวเหี่ยวเร็วจากการที่สเตียรอยด์ทำลายสารคอลลาเจน กรรมๆ จะรักษาให้หน้าดีขึ้น ทำไมมีแต่จะแย่ลงนะ หากคุณอยากเลิกใช้แต่ไม่อยากหน้าพัง ก็มีวิธีปฎิบัติง่ายๆ หากใช้ไปแล้ว 5-30 วัน ให้หยุดทันที หรือใช้นานกว่านี้ ให้ไปพบแพทย์ไม่ก็ค่อยๆหยุดยาเอง ร่วมกับนอนหลับให้เพียงพอ ใช้เจลล้างหน้าสูตรไม่มีฟอง ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแต่ไม่ใช้น้ำอุ่น ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆเพื่อล้างสารเคมี งดอาหารรสจัด ใช้ครีมที่อ่อนโยนเพื่อฟื้นฟูผิว เพียงเท่านี้ ปัญหาบนใบหน้าคุณก็จะหมดไป
“ยิ่งใช้ยิ่งรักษายาก เลิกตั้งเเต่วันนี้ดีกว่าไหม ? “
แสดงความคิดเห็น