คุณสามารถรับ Infographic ดีๆ ฟรี ส่งตรงถึง อีเมลคุณ

ท้องเสียซ่อมได้ แค่เลือกวิธีให้ถูกต้อง

Published by Infographic Thailand

        IMG_2476

 

                  ช่วงวิกฤต “ท้องเสีย” แบบไหนบ้าง ที่ทรมานคุณจนเกือบวิ่งหาห้องน้ำแทบไม่ทัน คุณยังจำมันได้ดีอยู่ใช่ไหม ? เพราะช่วงวิกฤตเหล่านั้นอาจส่งผลเสียกับชีวิตของคุณในหลายๆด้าน เช่น ท้องเสียจนต้องลางาน ต้องยกเลิกนัดกับลูกค้าเลื่อนกำหนดการเที่ยวไม่มีกำหนด ฯลฯ อาการท้องเสียจะแบ่งหลักๆจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ท้องเสียแบบเฉียบพลัน และ ท้องเสียแบบเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก แบคทีเรีย ปรสติ ไวรัส ยา และอาหารเป็นพิษ ซึ่งวิธีสังเกตง่ายๆว่าตัวคุณเองอาจกำลังเจอช่วงวิกฤต ท้องเสีย ก็คือ การถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ 3 ครั้งขึ้นไป แต่จะเป็นแบบไหนจะต้องใช้เวลาสังเกตนานกว่านั้นอีกซักหน่อย

แบบที่หนึ่ง ท้องเสียเฉียบพลัน จะมีระยะที่น้อยกว่า 2 สัปดาห์

แบบที่สอง ท้องเสียเรื้อรัง จะมีระยที่มากกว่า 2 สัปดาห์

(หากมีอาการท้องเสียแบบนี้ แนะนำให้รีบพบแพทย์ทันที)

                แต่อย่างไรก็ตามเมื่อท้องเสีย ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยหรือ คิดแค่ว่าเดี๋ยวก็คงหาย เพราะความเข้าใจผิดเหล่านี้ อาจทำให้คุณเสียเงินค่ารักษาที่มากกว่าเดิมได้  ดั้งนั้น คุณควรรู้ 3 วิธีจะต้องปฏิบัติ หากเกิดอาการท้องเสียไว้ด้วยจะดีที่สุดครับ

 

       1. ดื่มสารละลายเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส)

 

                เพราะเมื่อคุณท้องเสีย สิ่งที่หายไปจากร่างกายก็คือน้ำและเกลือแร่  ดั้งนั้นเพื่อไม่ให้ร่างกายช็อกจากการขาดน้ำ คุณควรซื้อสารละลายเกลือแร่

ติดตัวหรือติดบ้านไว้ เพื่อเวลามีอาการท้องเสียจะได้ดื่มสารละลายเกลือแร่ตามทันที

  1. ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย

               การกินอาหารของคุณควรที่จะเปลี่ยนทันที เพื่อปรับกระเพาะให้เป็นปกติดีก่่อน อะไรที่คุณเคยกินอยู่ เช่น ขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวราดแกงเผ็ดๆ ให้หยุดไว้ก่อนเลย หันมากิน โจีก ข้าวต้ม แทนจะดีกว่า (สำหรับเด็กเล็กควรให้นมครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆหรือให้นมที่ไม่มีแล็กโตส)

  1.  เลือกใช้ยาให้เหมาะสม

               การเลือกกินยาที่ไม่เหมาะอาจส่งผลจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลงกว่าเดิมคุณรู้จักชนิดยาที่เหมาะสมวัยของตัวคุณเอง

3.1 ยาแก้ท้องเสีย ชนิดยาลดการหลั่งสารน้ำในลำไส้

ในขณะที่เราท้องเสียจะเกิดอาการเสียน้ำ ยาตัวนี้จะทำให้เสียน้ำลดลง สามารถใช้ได้ทั้งท้องเสียชนิดติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ  ซึ่งเหมาะกับเด็กอายุ 3เดือนขึ้นไปจนไปถึงผู้สูงอายุ

 

3.2 ยาแก้ท้องเสีย ชนิดยาลดการเคลื่อนไหวของลำไส้

เมื่อท้องเสีย ลำไส้จะเลื่อนไหวหรือที่เรียกว่าบิดจนเกิดอาการปวดจนตัวงอยาตัวนี้จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ แต่จะไม่ได้ช่วยขับเชื้อโรค

ส่งผลให้เชื้อโรคอาจเติบโตขึ้นได้ ดังนั้นถ้าหากใช้ยาตัวนี้ควรระวัง และไม่ควรใช้กับในเด็กหรือผู้สูงอายุ และห้ามใช้ในกรณีถ่ายเป็นมูกเลือด

 

3.3 ยาปฏิชีวนะ

ยาตัวนี้ใช้กำจัดเชื้อโรคได้ดี แต่จะใช้ได้เฉพาะกรณีที่ติดแบคทีเรียบางชนิดและปรสิต (โดยเฉพาะการถ่ายเป็นมูกเลือด) แต่ก่อนเลือกใช้ยาตัวนี้ควรปรึกษาแพทย์ , เภสัชกร ก่อนทุกครั้ง

 

                เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถหยุดท้องเสียได้อย่างปลอดภัยและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจแล้วล่ะครับ

Shared on 31 JUl 2014 in Health

ส่งต่อความรู้ดีๆ

LINE it!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Print

5 วิธีเด็ด ชวนผู้สูงอายุใส่หน้ากากอนามัย...

World AQI Ranking วันนี้กทม.ติด 1 ใน 10 ที่มีค่าฝุ่นมากที่สุด . ตอนนี้ฝุ่นพิษกลับมาอีกแล้ว รู้
โรคจิต 2-01 copy

ใช้การเรียงลำดับตามวันที่ปิด รวมสถานที่ปรึกษาปัญหาป่วยทางจิต

“ฆ่าตัวตาย” ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เมื่อตัวชี้วัดในการดำเนินชีวิต คือพ่อแม่
1-02

4 โรคร้ายแรงแฝงมากับฝุ่น

เมื่อฝุ่นพิษเริ่มวิกฤติ โรคร้ายก็ใกล้ตัวเราทุกคนมากขึ้น . ทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ ตอนนี้ เต