ขึ้นชื่อว่า เงิน ซื้อได้ทุกอย่างจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่สิ่งที่เรียกว่า “ความสุข”  หรือใครจะเถียงว่ามีบางอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็ซื้อได้ด้วยเงินนะจ๊ะ จริงมั้ย?

มีข้อสรุปจากการวิจัยจริ ๆ แล้ว ว่าเงินซื้อความสุขได้ แต่ความสุขนั้นอยู่ได้ไม่นานต่างหาก ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เสียเงินซื้อของใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะคนส่วนมากไม่รู้ความจริงทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสุขว่าอะไรทำให้มีความสุขและอะไรรักษามันไว้ให้คงอยู่

                  ซึ่งความสุขของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีความสุขกับการได้ซื้อของใหม่ๆ บางคนมีความสุขกับการได้ไปเที่ยว ไปโน่นไปนี่

แล้วทำไมประสบการณ์มีค่ามากกว่าสิ่งของ ?

               หลายๆคนเชื่อว่า สิ่งของมีค่ามากกว่า เพราะมันอยู่กับเราได้นานกว่า ความสุขขณะนั้นที่จ่ายเงินแล้วจบไป ผ่านไปเราอาจจะลืมไปได้ แต่ผลการวิจัยล่าสุดบอกว่าการคิดเป็นนั้นผิด !

ผลการวิจัยจาก Dr. Thomas Gilovish ศาสตราจารย์ภาคจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Cornell ที่ศึกษาเรื่องเงินกับการทำให้มีความสุขมากว่า 20  ปี บอกว่า ศัตรูอย่างหนึ่งของการมีความสุข คือการปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ ถ้าเราปรับตัวเข้ากับสิ่งเหล่านั้นได้เมื่อไหร่ความสุขก็จะลดลง แต่ถ้าใช้เงินซื้อประสบการณ์ ซึ่งผลออกมาทำให้มีความสุขในระดับที่เท่ากัน แต่! ความสุขต่อประสบการณ์การณ์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา

ประสบการณ์ VS สิ่งของ

               เปรียบเทียบง่ายๆ สมมติว่าในจำนวนเงินที่เท่ากัน เมื่อเราซื้อประสบการณ์ เช่นการไปเที่ยวในที่ใหม่ๆ ให้มันซึมซับเข้าตัว เราก็มีเรื่องไปพูดคุยกับคนอื่น เป็นความทรงจำที่ทำให้รู้สึกดี แม้จะมีไม่เท่าคนอื่น ยิ่งนาน ยิ่งเก็บไว้ให้พูดถึงได้เรื่อยๆ

ถ้าซื้อสิ่งของ เช่นมือถือ เมื่อซื้อตอนนั้นเราก็มีความสุขดี แต่พอนานๆไปเราก็เริ่มเบื่อชิน มีรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีกเพียบ ยิ่งถ้าเห็นคนอื่นมีรุ่นที่ใหม่กว่า ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ เบื่อเครื่องเก่า อยากจะเปลี่ยน ความสุขในตอนแรก เราก็แทบจะจำไม่ได้แล้ว

               เห็นมั้ยละว่า ประสบการณ์ดีๆสักหนึ่งอย่าง อาจทำให้มีความสุข และมีคุณค่ามากกว่าการได้ซื้อของเป็นร้อยๆ ชิ้นก็ได้ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกซื้ออะไร ก็เอาที่สบายใจ อะไรที่ทำแล้วตัวเองมีความสุข ก็ทำไปเถอะ…

เพราะความสุขของเราขึ้นอยู่ที่ตัวเรา